ไอเดียรีโนเวทพื้นที่ Coworking Space ปลุกไอเดียคนทำงาน รับปี 2023

ไอเดียรีโนเวทพื้นที่ Coworking Space ปลุกไอเดียคนทำงาน รับปี 2023

ปี 2023 กำลังมา ใครวางแผนว่าจะสร้าง Coworking Space ไว้ที่บ้านหน่อย วันนี้ผมมรไอเดียเปิดไอเดียรีโนเวทพื้นที่แบบ Coworking Space ปลุกไอเดียคนทำงานยุค New Normal รับปี 2023 จาก SCG มาแนะนำกันครับแสงทิพย์ นิรุตติรักษ์ หนึ่งในทีมงานสถาปนิกจาก จาก SCG ได้มาเปิดเปลือยไอเดีย การปรับปรุงพื้นที่ Coworking Space ในแบบฉบับผสมผสาน ให้ฟังว่า

“ โจทย์สำคัญของการรีโนเวทพื้นที่ คือการสร้างพื้นที่ให้เชื่อมโยงการทำงาน Online และ Onsite เข้าด้วยกัน ส่งผลให้การปรับปรุงพื้นที่ ต้องสามารถรองรับทั้งการประสานงานแบบส่วนตัว หรือเป็นกลุ่มเล็ก ใหญ่ เพิ่มเข้าไปด้วย ขณะเดียวกันการปรับปรุงพื้นที่ยังให้ความสำคัญต่อการผสมผสานพื้นที่สันทนาการ เพื่อเติมเต็มบรรยากาศให้เกิดความผ่อนคลายหรือการรีเฟรชชีวิตระหว่างวัน ช่วยกระตุ้นให้เกิดไอเดียการทำงานใหม่ๆ ซึ่งสิ่งสำคัญก็คือการคัดสรร หรือนำวัสดุตกแต่งนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้เข้ามาสนับสนุนวิถีการทำงานแนวใหม่ มาพัฒนาควบคู่ไปกับการออกแบบไปด้วย”

เรื่องยากที่สุดของการตกแต่งของทีมออกแบบก็คือการเปลี่ยนสิ่งที่คุ้นเคย อาทิ ห้องประชุม เพราะการทำงานออนไลน์ ปรับให้การประชุมภายนอก เป็นการใช้พื้นที่ภายในมากขึ้น การออกแบบจึงเน้นไปที่การเติมเต็มประสิทธิภาพต่อขนาดพื้นที่ ให้หลากหลายมากขึ้น ให้เหมาะสมต่อจำนวนคน และการใช้งาน ด้วยการใช้วัสดุแผ่นดูดซับเสียงมาเป็นวัสดุปกปิดผนัง เพราะนอกจากเป็นวัสดุที่ช่วยลดปัญหารบกวนเรื่องเสียงแล้วยังสามารถนำมาตกแต่งห้อง ด้วยการเลือกหุ้มตัววัสดุด้วยผ้าที่เป็นโทนสีน้ำตาลอมเทา (Steeple Grey) ทำให้เกิดความรู้สึกอบอุ่น และบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เนื่องจากห้องประชุมเป็นห้องที่ต้องใช้พลังในการรวบรวมความคิด ระดมสมองมากนอกจากนี้ในส่วนพื้นที่ภายนอก ที่เคยเป็นส่วนตั้งโต๊ะทำงาน การทำงาน แบบ Online และ Onsite ทำให้จำเป็นต้องมีพื้นที่รองรับการประชุมย่อย ไม่เป็นทางการมากนักหรือสำหรับการทำงานเฉพาะกิจ การนำวัสดุอะคูสติก สำหรับผนังตกแต่งและดูดซับเสียง รุ่น Cylence Zandera มาพัฒนาในแบบ Meeting Partition ที่ไม่สูงจนเกินไป ทำให้รู้สึกมีความเป็น Semi-Public ที่เป็นพื้นที่เปิดในระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้เปิดมากจนเกินไป ความสูงของผนังผ่านการคำนวณประสิทธิภาพการซับเสียงจากทีมวิศวกร ว่าสามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสม กับพื้นที่สำหรับการประชุมที่ไม่เป็นทางการมากเกินไป ในรูปทรงโค้ง และใช้โทนสีอบอุ่นอย่างสี Steeple Grey ภายใน เพื่อเพิ่มความผ่อนคลายให้กับผู้เข้าร่วมประชุม หรือผู้ที่ใช้พื้นที่ด้วย

ออกแบบ

การสร้างพื้นที่ทำงานส่วนตัวให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานที่ผ่อนคลายให้เหมือนการทำงานที่บ้านจึงเป็น ไฮไลท์ของการปรับปรุงพื้นที่ในส่วนนี้ก็คือการทำให้พื้นที่ eye view ที่เคยเป็นพื้นที่เฉพาะ หรือห้องทำงานส่วนตัว มาเปิดเป็นพื้นที่ ให้เข้าถึงได้มากขึ้น พร้อมสร้างความเป็นอิสระ หรือความเป็นส่วนตัวที่ตอบรับวิถีการทำงานใหม่ ทั้งในแบบการกั้น Partition ด้วย วัสดุอะคูสติสำหรับผนังดูดซับเสียง.รุ่น Cylence Zandera เพื่อความเป็นส่วนตัวในพื้นที่จำกัด โดยกั้นกำแพงด้านข้าง และเปิดพื้นที่ว่างทั้งด้านหน้าและหลัง โดด้านหนึ่งเปิดให้เห็นวิวภายนอก ด้านในดีไซน์ให้มีโต๊ะทำงานขนาดกะทัดรัด ออกแบบเพื่อการทำงานทั้งแบบออนไลน์ หรือ ประชุมเป็นSmall Group รวมถึงการนำ Acoustic Pod มาเสริมสร้างพื้นที่การทำงานส่วนตัว

ด้วยประสิทธิภาพที่ช่วยลดเสียงรบกวนได้ถึง 30 เดซิเบล และลดเสียงก้อง เสียงสะท้อนของห้องได้ มีการออกแบบให้เหมาะกับการทำงานแบบส่วนตัว ด้วยดีไซน์โมเดริน์ มีระบบหมุนเวียนอากาศภายใน และสามารถลดเชื้อโรคและฝุ่นในอากาศ เช่น เชื้อไวรัส แบคทีเรียสูงสุด 99 % ด้วย SCG Bi-ion พร้อมอุปกรณ์ครบครัน ให้พร้อมทำงานได้อย่างสะดวกสบาย ติดตั้งแบบ Knock Down เคลื่อนย้ายได้สะดวก จึงเหมาะเป็นห้องประชุมส่วนตัวบนโลกออนไลน์ ที่เชื่อมโยงกับบรรยากาศการทำงานเดิม ให้ดูเป็นพื้นที่ทำงานอันทันสมัย ได้อย่างลงตัว และที่พลาดไม่ได้คือ จุดพักผ่อนหย่อนใจ ให้ยืดเส้นยืดสายกับมุมสันทนาการเล็ก อย่างโต๊ะปิงปอง หรือมุมจิบกาแฟชิล ชิล ชมเมือง ให้ความตึงเครียดจากการทำงานได้ผ่อนคลายบ้าง ก็ไม่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

ความลงตัวของการออกแบบเพื่อตอบสนองวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปภายใต้พื้นที่ห้องอันจำกัด โดยการหยิบยกเอาจุดเด่นที่น่าสนใจ แบบ Coworking Space ในเวอร์ชั่นใหม่ มาผสมผสานกับการใช้วัสดุตกแต่งนวัตกรรมใหม่ที่มีคุณสมบัติช่วย เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้พนักงานภายในที่ทำงาน ภายใต้โจทย์การดำเนินชีวิตที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับการทำงานที่บ้าน จึงเป็นแนวโน้มที่ดูกำลังได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการเพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกัน วัสดุที่ทีมนักออกแบบนำมาใช้ในการปรับปรุงพื้นที่ในครั้งนี้ นอกจากตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานตามแบบวิถีชีวิตใหม่แล้ว ยังเป็นการร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของการรักษ์โลกอีกด้วย ด้วยวัสดุที่ใช้ไม่ว่าจะเป็น ผนังตกแต่งและดูดซับเสียง หรือ Acoustic Pod ล้วนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำอย่างแท้จริง

แนะนำข่าวออกแบบเพิ่มเติม : การออกแบบและปรับปรุงแก้ไขอาคารเพื่อรับมือแผ่นดินไหว

การออกแบบและปรับปรุงแก้ไขอาคารเพื่อรับมือแผ่นดินไหว

การออกแบบอาคาร และวิธีการปรับปรุงแก้ไขอาคารเพื่อลดความเสี่ยงจากความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี และซีเรีย ที่มีขนาดความรุนแรง 7.8 แมกนิจูด ทำให้อาคาร บ้านเรือน รวมทั้งสิ่งปลูกสร้าง อาคารขนาดใหญ่พังถล่ม จนสร้างความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สินอย่างมหาศาล ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) จึงมีแนวทางในการรับมือแผ่นดินไหว ทั้งในด้านการออกแบบอาคาร และวิธีการปรับปรุงแก้ไขอาคารเพื่อลดความเสี่ยงจากความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว

“ดร.ภาณุมาศ ไทรงาม” อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างอาคารต้านทานแผ่นดินไหว กล่าวว่า ส่วนสำคัญในการออกแบบโครงสร้างเพื่อรับมือกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวจะออกแบบให้เสามีขนาดใหญ่ขึ้น

เพราะผลกระทบโดยตรงกับอาคาร จะเป็นแรงที่กระทำจากด้านข้าง ซึ่งคือ “เสา” เรียกว่าระบบ “เสาแข็งคานอ่อน” โอกาสที่เสาจะเอนจะน้อยลง รวมถึงทำอาคารให้มีความเหนียวมากขึ้นโดยการเพิ่มรายละเอียดเหล็กเสริม และเหล็กปลอกของโครงสร้างอาคาร

ข่าวออกแบบ-Design

สำหรับอาคารเก่าที่เจ้าของมีความกังวล ในหลักการทางวิศวกรรม สามารถทำการวิเคราะห์อาคารได้ และถ้าผลวิเคราะห์ออกมาพบว่าเป็นอาคารที่ไม่สามารถรับแรงแผ่นดินไหวได้โดยมี 4 แนวทางดังนี้

1.เสริมกำลังด้วยคอนกรีต และเหล็กเสริมที่เสาให้มีขนาดใหญ่ขึ้นจากเดิม (concrete jacketing) ซึ่งเป็นวิธีการเสริมแรงแบบดั้งเดิม เหมาะสำหรับอาคารที่ต้องการเสริมความแข็งแรงของอาคารเพื่อรองรับแผ่นดินไหวในพื้นที่ที่มีผู้เชี่ยวชาญในงานก่อสร้างด้านการเสริมกำลังด้วยโครงคอนกรีตเสริมเหล็ก โดยเป็นวิธีดั้งเดิมที่ถูกใช้ในหลายประเทศ

2.เสริมกำลังด้วยแผ่นเหล็กที่เสาจะทำให้อาคารมีการรับแรงด้านข้างได้มากขึ้น (steel jacketing) แทนการเอาเหล็กเสริม และคอนกรีตเข้าไปพอกที่เสาเพียงอย่างเดียว เหมาะสำหรับอาคารที่ต้องการเสริมความแข็งแรงของอาคารเพื่อรองรับแผ่นดินไหว และมีผู้เชี่ยวชาญในการก่อสร้างงานด้านการเสริมกำลังด้วยโครงสร้างเหล็ก

3.เสริมกำลังโดยให้กำแพงสามารถรองรับแรงเฉือน (shear wall) ซึ่งอาคารสูง หรืออาคารสาธารณะในประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯมีการออกแบบรับแรงด้านข้างมานานแล้ว จากปกติที่ผนัง หรือกำแพงจะเป็นแค่อิฐเพียงอย่างเดียว ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้วิธีนี้กับอาคารสูง เนื่องจากจะได้รับผลกระทบทั้งแรงลม หรือแผ่นดินไหวมากกว่าอาคารต่ำ

วิธีการคือใส่เหล็กเพื่อช่วยรับแรงด้านข้างดังกล่าว หรือเรียกว่าเป็นผนังคอนกรีตเสริมเหล็ก กำแพงแบบนี้จะไม่มีโครงสร้างเสาคานให้เห็น ซึ่งเกิดจากการออกแบบให้รับน้ำหนักแทนเสา และคาน ผนังแบบนี้แข็งแรงกว่าผนังก่ออิฐฉาบปูน แต่มีข้อเสียตรงที่เราไม่สามารถปรับแต่ง ต่อเติม หรือเจาะผนังได้ เพราะจะเกิดความเสียหาย

4.เสริมกำลังด้วยโครงแกงแนง (bracing) ซึ่งจะช่วยรับแรงด้านข้างได้ดี มีลักษณะของการเสริมกำลังด้วยการใช้เหล็กแท่งเสริมเข้าไประหว่างเสา 2 ต้น เพื่อเพิ่มการรับแรงกระทำจากด้านข้าง การยึดรั้ง และเพิ่มเสถียรภาพและความแข็งแรงทางด้านข้าง ซึ่งเป็นระบบที่ถูกใช้เสริมกำลังอาคารเพื่อต้านทานแผ่นดินไหวในหลายประเทศ

นอกจากนั้น “ดร.ภาณุมาศ” ยังกล่าวเสริมว่า สำหรับอาคารกลุ่มแรกที่ควรได้รับการตรวจสอบ และวิเคราะห์ ควรเป็นอาคารยุคเก่า กลุ่มอาคารสาธารณะที่มีผู้คนใช้งานเป็นจำนวนมาก เพื่อหาแนวทางป้องกัน และเสริมกำลังให้ต้านทานแผ่นดินไหวต่อไป

แนะนำข่าวออกแบบ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : ไอเดียออกแบบแต่งบ้านด้วยผนังหิน

ไอเดียออกแบบแต่งบ้านด้วยผนังหิน

ไอเดียออกแบบแต่งบ้านด้วยผนังหิน สร้างกลิ่นอายธรรมชาติที่แสนพิเศษ

บ้านหลังนี้ออกแบบตามความต้องการของเจ้าของบ้าน “คุณสุพิชา กลายเจริญ” โดยทุบบ้านหลังเก่าทิ้งแล้วสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด สาเหตุที่ไม่ได้เลือกอาศัยหมู่บ้านจัดสรรเป็นเพราะสไตล์และฟังก์ชันไม่ตรงกับความชอบ ดังนั้นจึงให้โจทย์กับสถาปนิกว่าอยากได้บ้านที่มีความโมเดิร์น เน้นบรรยากาศภายในบ้านโล่งๆ ใช้กระจกเพื่อเปิดรับช่องแสง ช่วยให้บ้านสว่างและดูมีมิติ นอกจากนั้นยังเลือกแผ่นหิน Sintered Stone เข้ามาสร้างบรรยากาศในมุมต่างๆ ช่วยทำให้บ้านดูสวยงามมากยิ่งขึ้น

Sintered Stone เป็นนวัตกรรมวัสดุปิดผิวจาก Neolith เกิดจากการนำอนุภาคแร่หินธรรมชาติมาหลอมเป็นแผ่นเรียบ เป็นแร่หินธรรมชาติ 100% ที่ไม่มีการผสมเรซิน จึงมีความทนทานสูง สามารถใช้ได้กับงานหลากหลายประเภททั้งภายใน และภายนอกอาคารตั้งแต่ พื้น ผนัง ท็อปครัว ท็อปห้องน้ำ ไปจนถึงฟาซาดภายนอกอาคาร

สามารถนำแผ่นหินมาตกแต่งภายนอก ใช้กับงานบันไดก็ดูสะดุดตา เพราะจะว่าไปแล้ววัสดุตกแต่งปิดผิวถือเป็นส่วนสำคัญไม่น้อย นอกจากจะคำนึงเรื่องความสวยงามแล้วยังมีความแข็งแรง ทนทาน ทำความสะอาดง่าย

ข่าวออกแบบ-วันนี้

ห้องนั่งเล่นที่ดูโมเดิร์น เน้นบรรยากาศสบายๆ เชื่อมโยงระหว่างธรรมชาติภายนอกกับพื้นที่ใช้สอยภายใน ตอบโจทย์ในแง่ของการใช้งานสำหรับการพักผ่อน เพิ่มวัสดุปิดผิวตกแต่งผนังด้วยแผ่นหิน Sintered Stone ก็ทำให้ดูสวยสง่างาม ดูโดดเด่นเป็นพิเศษ

แผ่นหินมีหลากหลายลวดลายสามารถเลือกให้เข้ากับบรรยากาศภายในบ้าน รวมถึงการเลือกเฉดสีให้เหมาะสมและกลมกลืนกับมู้ดแอนด์โทนของแต่ละห้อง สร้างจุดเด่นตรงผนังห้องด้วยการตกแต่งโดยใช้แผ่นหิน Sintered Stone ก็ดูสวยงามและน่าสนใจได้ง่ายๆ

แผ่นหินมีหลากหลายลวดลายสามารถเลือกให้เข้ากับบรรยากาศภายในบ้าน รวมถึงการเลือกเฉดสีให้เหมาะสมและกลมกลืนกับมู้ดแอนด์โทนของแต่ละห้อง สร้างจุดเด่นตรงผนังห้องด้วยการตกแต่งโดยใช้แผ่นหิน Sintered Stone ก็ดูสวยงามและน่าสนใจได้ง่ายๆ

ด้วยคุณสมบัติของ Sintered Stone ที่ผลิตโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ใช้อุณหภูมิและความดันสูงหลอมอนุภาคแร่หินธรรมชาติสร้างเป็นผลิตภัณฑ์แผ่นเรียบขนาดใหญ่ บาง น้ำหนักเบา ความทนทานสูง ทนต่อแสงอาทิตย์ นำไปตกแต่งภายนอกอาคารที่สามารถทนแดดและฝนได้ กลายเป็นผนังตกแต่งนอกบ้านเชื่อมต่อมายังห้องน้ำที่ช่วยทำให้ผ่อนคลายขณะใช้งาน

แนะนำข่าวออกแบบ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : Suzuki CARRY ดัดแปลงเป็น “ห้องตัดเสื้อ” เสร็จสรรพจ่ายเพียง 670,000 บาท

Suzuki CARRY ดัดแปลงเป็น “ห้องตัดเสื้อ” เสร็จสรรพจ่ายเพียง 670,000 บาท

Suzuki CARRY ใหม่ ถูกดัดแปลงให้กลายเป็นห้องตัดเสื้อเคลื่อนที่เอาใจคนทำมาหากิน

เคาะราคาตัวรถพร้อมโครงสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งเสร็จสรรพเพียง 670,000 บาท เผยโฉมให้ได้สัมผัสคันจริงที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2022 (Motor Expo 2022) ระหว่างวันที่ 1 – 12 ธันวาคม 2565 นี้

ก่อนหน้านี้ ซูซูกิประเทศไทยเคยสร้างสีสันให้กับบูธงานมอเตอร์โชว์และมอเตอร์เอ็กซ์โปด้วยการนำเอารถกระบะ Suzuki CARRY มาดัดแปลงให้กลายเป็นรถบ้านเคลื่อนที่เอาใจสายแคมปิ้ง และร้านขายกระเป๋าสีพาสเทลสุดน่ารักมาแล้ว ล่าสุดงานมอเตอร์เอ็กซ์โปปีนี้ทางซูซูกิได้นำรถรุ่นดังกล่าวมาดัดแปลงให้กลายเป็นร้านตัดเสื้อและซ่อมเสื้อผ้าเคลื่อนที่ จับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการนำไปใช้เชิงธุรกิจ สามารถเข้าถึงลูกค้าตามสถานที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น