รัสเซียจ่อส่งเรือรบพร้อมขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงซ้อมรบร่วมจีน-แอฟริกาใต้

สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานว่า เรือรบรัสเซียที่ติดตั้งขีปนาวุธร่อนความเร็วเหนือเสียงรุ่นใหม่จะเข้าร่วมในการซ้อมรบร่วมกับกองทัพจีนและแอฟริกาใต้ในเดือนก.พ.

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เรือรบลำนี้มีชื่อว่า “จอมพลเรือแห่งสหภาพโซเวียต กอร์ชคอฟ” (Admiral of the Fleet of the Soviet Union Gorshkov) ซึ่งติดตั้งขีปนาวุธเซอร์คอน และนับเป็นครั้งแรกที่ทางการรัสเซียเอ่ยชื่อเรือรบลำนี้ในการเข้าร่วมซ้อมรบ

ทางการรัสเซียระบุว่า ขีปนาวุธเซอร์คอนบินได้ด้วยความเร็วที่เหนือกว่าเสียงถึง 9 เท่า และสามารถยิงได้ไกลกว่า 1,000 กิโลเมตร (620 ไมล์) โดยนับเป็นองค์ประกอบสำคัญในคลังสรรพาวุธความเร็วเหนือเสียงของรัสเซีย เช่นเดียวกับยานรบร่อนอแวนการ์ด (Avangard) ที่พร้อมใช้งานเมื่อปี 2562

ทันโลกข่าวต่างประเทศ

สำนักข่าวทาสส์รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวจากกลาโหมว่า เรือรบดังกล่าวจะมุ่งหน้าไปยังจุดสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ในเมืองทาร์ทัสของซีเรีย จากนั้นจะเข้าร่วมการซ้อมรบร่วมกับกองทัพเรือจีนและแอฟริกาใต้

ทั้งนี้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (19 ม.ค.) กองทัพแอฟริกาใต้ระบุว่า การซ้อมรบจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 17-27 ก.พ. ใกล้กับเมืองท่าเดอร์บันและเมืองริชาร์ดเบย์ โดยมีเป้าหมายเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างแอฟริกาใต้ รัสเซีย และจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

รัสเซียมองว่า อาวุธเหล่านี้มีขึ้นเพื่อเจาะระบบป้องกันขีปนาวุธที่มีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ ของสหรัฐ โดยประธานาธิบดีปูตินเคยเตือนว่า วันหนึ่งระบบป้องกันขีปนาวุธเหล่านี้อาจสกัดขีปนาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซียให้ตกได้

ติดตามข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่ : ตร.เกาหลีใต้ยอมรับ ‘ผิดพลาด’ ปล่อยฝูงชนไหลทะลัก จนเกิดโศกนาฏกรรมที่ ‘อิแทวอน’

ตร.เกาหลีใต้ยอมรับ ‘ผิดพลาด’ ปล่อยฝูงชนไหลทะลัก จนเกิดโศกนาฏกรรมที่ ‘อิแทวอน’

ผู้บัญชาการตำรวจเกาหลีใต้ออกมายอมรับวันนี้ (1 พ.ย.) ว่า ตำรวจประเมินสถานการณ์ผิดพลาด ปล่อยให้มีนักท่องเที่ยวเข้าไปแออัดยัดเยียดกันในตรอกแคบๆ จนเกิดโศกนาฏกรรมคนเหยียบกันตายนับร้อยที่ย่านอิแทวอน พร้อมประกาศตั้งทีมสอบสวนอิสระเพื่อระบุต้นตอของเหตุสลดครั้งนี้

ตร.เกาหลีใต้ยอมรับ-‘ผิดพลาด’

ยุน ฮีกึน (Yoon Hee-keun) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้ ระบุในงานแถลงข่าวร่วมวันนี้ (1) ว่า ตน “รู้สึกอย่างแรงกล้าว่าจะต้องรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของสาธารณชน และเราจะทำให้ดีที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้หายนะเช่นนี้เกิดขึ้นอีก”

ยุน ยอมรับว่ามาตรการควบคุมฝูงชนในวันเกิดเหตุ “ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ” และเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งผ่านทางสายด่วน 112 หลายครั้งว่าสถานการณ์ที่อิแทวอนในค่ำวันเสาร์ (29) อยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงอันตราย ก่อนจะเกิดเหตุเหยียบกันในถนนแคบๆ ข้างโรงแรมแฮมิลตัน จนมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 150 คน

ยุน รับปากจะทบทวนระบบตอบสนองเหตุฉุกเฉินของตำรวจว่ามี “ปัญหาเชิงโครงสร้าง” ใดๆ หรือไม่ อีกทั้งจะตรวจสอบโรงแรมแฮมิลตันที่อิแทวอนว่ามีการก่อสร้างอย่างถูกต้องตามกฎหมายควบคุมอาคารหรือไม่ด้วย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเขาจะ “ลาออก” เพื่อแสดงความรับผิดชอบหรือไม่ ผบ.ตร.เกาหลีใต้ตอบว่า สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือต้องสาวให้ลึกถึงต้นตอของปัญหา และเมื่อผลการสอบสวนเป็นที่ประจักษ์แล้ว ตนก็จะออกมาแสดงจุดยืนที่เหมาะสมต่อไป

โดยปกติแล้ว เกาหลีใต้ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีมาตรการควบคุมฝูงชนอย่างเข้มข้นรัดกุม โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุชุมนุมประท้วงต่างๆ ซึ่งหลายครั้งจะมีตำรวจเข้าควบคุมสถานการณ์มากกว่าจำนวนคนที่ประท้วงเสียอีก ทว่าในกรณีของอิแทวอนนั้นต่างออกไป เพราะเป็นการที่นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าไปตามผับบาร์และร้านอาหาร ซึ่งต่างก็จัดอีเวนต์ของตัวเองเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลฮาโลวีน

สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ตำรวจส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลความสงบเรียบร้อยที่อิแทวอนช่วงเทศกาลฮาโลวีนเพียงแค่ 137 นาย แต่กลับระดมกำลังตำรวจถึง 6,500 นายไปคุมการประท้วงที่อีกฟากหนึ่งของเมืองซึ่งมีผู้เข้าร่วมแค่ราวๆ 25,000 คน

ประธานาธิบดี ยุน ซุกยอล แห่งเกาหลีใต้ ระบุวันนี้ (1) ว่า โศกนาฏกรรมที่อิแทวอนถือเป็นเครื่องย้ำเตือนว่าเกาหลีใต้มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องปรับปรุงมาตรการควบคุมฝูงชน

“ความปลอดภัยของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมที่มีผู้จัดงานหรือไม่ก็ตาม” ประธานาธิบดี ยุน กล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรี

ผู้นำเกาหลีใต้ยังเรียกร้องให้มีการพัฒนา “ศักยภาพด้านดิจิทัลที่ทันสมัย” เพื่อช่วยในการจัดการฝูงชน แต่ก็ถูกบรรดานักวิจารณ์ตอกกลับว่า เครื่องไม้เครื่องมือดังกล่าว “มีอยู่แล้ว” แต่ไม่ได้ถูกนำมาใช้ที่อิแทวอน

ด้านรัฐมนตรีมหาดไทย อี ซัง-มิน (Lee Sang-min) ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านั้นว่า ต่อให้ใช้กำลังตำรวจมากขึ้นก็อาจจะป้องกันเหตุการณ์ไม่ได้อยู่ดี ซึ่งทำให้ภาครัฐยิ่งถูกสังคมตำหนิติเตียนมากขึ้นไปใหญ่