CDC เปิดตัว CDC Pet Park ตั้งเป้าเบอร์หนึ่งของเมืองไทย ตอบรับกระแสไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ สังคมคนรักสัตว์เลี้ยงด้วยมาตรฐานเพ็ทพาร์คระดับโลก วัสดุรักษ์สิ่งแวดล้อม

CDC เปิดตัว CDC Pet Park ตั้งเป้าเบอร์หนึ่งของเมืองไทย ตอบรับกระแสไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ สังคมคนรักสัตว์เลี้ยงด้วยมาตรฐานเพ็ทพาร์คระดับโลก วัสดุรักษ์สิ่งแวดล้อม

คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (ซีดีซี) เลียบทางด่วนเอกมัย – รามอินทรา เป็นที่รู้จักโด่งดังว่าเป็นอาณาจักรดีไซน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเรื่องการตกแต่งบ้าน มีโชว์รูมแบรนด์ดังทั้งวัสดุตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ครบครันหลากหลายที่สุด ทั้งร้านอาหารและไนท์ไลฟ์ชื่อดัง ล่าสุด CDC เปิดตัว CDC Pet Park โดยตั้งเป้าเป็น “เพ็ท พาร์ค” เบอร์หนึ่งของเมืองไทย แนวคิดมาจากการตอบรับกระแสสังคมคนรักสัตว์เลี้ยง ปัจจุบันคนไทยเลี้ยงสัตว์เลี้ยงกว่า 14 ล้านตัว มูลค่าธุรกิจกว่า 42,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี ในปี 2564 CDC ให้ความสำคัญถึงการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันที่รักและเลี้ยงสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข โดยต้องการมีสถานที่ที่ดีในการพาสัตว์เลี้ยงไปพักผ่อน และมีสังคมคนรักสัตว์เลี้ยงที่แลกเปลี่ยนความคิด ช่วยด้านพัฒนาการของสัตว์เลี้ยงอย่างสนุกสนาน โดยมีพิธีเปิด CDC Pet Park อย่างเป็นทางการเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (12 พ.ย.) โดยมีบ้านและสวนเพ็ท ร่วมพิธีเปิดพื้นที่เพื่อสัตว์เลี้ยงด้วยกัน

CDC เปิดตัว

ศุภานวิต เอี่ยมสกุลรัตน์ CEO KE Group เสริมว่า การออกแบบครั้งนี้ใช้คอนเซ็ปท์ ‘Live happy life’ แนวคิดการออกแบบได้มาจากการศึกษาความต้องการของผู้รักสัตว์เลี้ยง สถาปนิกผู้เชี่ยวชาญ และความร่วมมือกับ Pet Lovers แบรนด์เพ็ทช๊อปซึ่งมีแฟลกชิพสโตร์ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย ตั้งอยู่โซน CDC Life ที่ คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (ซีดีซี) ซึ่งเป็นผู้นำอันดับต้นของเอเชียจากประเทศสิงคโปร์ CDC Pet Park มีการจัดแบ่งโซนเพื่อสัตว์เลี้ยงเป็น 4 โซน ได้แก่

Agility Zone เป็นโซนที่ออกแบบมาเพื่อให้สุนัขสามารถฝึกหัดความว่องไว ด้วยเครื่องเล่นพัฒนาการต่างๆ
Freedom Play Area เป็นโซนที่มีพื้นที่ให้สุนัขสามารถใช้ชีวิตอิสระ ไม่มีสายจูง และสามารถใช้ชีวิตกับเพื่อนสุนัขพันธุ์ต่าง ๆ ภายใต้การดูแลของเจ้าของสัตว์เลี้ยง พร้อมน้ำพุน้อยให้สุนัขฝึกเล่น
Small Dog yard เป็นโซนที่มีพื้นที่เพื่อสุนัขสายพันธุ์เล็กได้วิ่งเล่นอย่างอิสระ
Pet Community เป็นโซนที่สามารถพาสุนัขมานั่งเล่น เปิดกว้าง มีอากาศถ่ายเท และสามารถใช้เวลากับสัตว์เลี้ยง
ในการทำ CDC Pet Park เราใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ ของพื้นที่อย่างลึกซึ้งด้วยการเลือกใช้วัสดุต่างๆ ที่เป็นมาตรฐาน Pet Friendly ระดับโลก ซึ่งนับได้ว่าเป็น “Pet Super-Friendly Environment Only @ CDC” ได้แก่

Friendly Bench ที่นั่งที่ใช้วัสดุไม้เทียม เป็นผลิตภัณฑ์ไม้เทียมที่ใช้สารธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีและไม่เป็นพิษ (non-toxic) ต่อสัตว์เลี้ยง อีกทั้งได้รับการรับรองจาก Global Green Tag Certified ประเทศออสเตรเลีย, Green Award จากสิงคโปร์ และการันตีเรื่องความปลอดภัย US Green Building Council จากอเมริกา
Friendly Grass หญ้าเทียม ที่มีความปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยง ไม่เคลือบกาว และไร้สารโลหะหนัก ป้องกันข้อขาเสื่อม ทำความสะอาดง่าย
Friendly Rubber Floor ปูพื้นยาง อีกหนึ่งความใส่ใจเรื่องความปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยง ที่เลือกวัสดุไม่เป็นพิษ (non-toxic) เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ป้องกันข้อขาเสื่อมและมีความยืดหยุ่นได้ดี
Friendly Lighting ไฟฟ้าแสงสว่าง มีความสว่างในพื้นที่โดยตั้งความสว่างไว้ที่ 200 ลักซ์ ปลอดภัยต่อสายตาสัตว์เลี้ยง ตอบโจทย์ทั้งความสว่างที่มาจากแสงธรรมชาติ และการถ่ายรูปในเวลากลางคืน เพื่อให้เก็บภาพทุกความประทับใจได้ทุกช่วงเวลา
จากการศึกษา Checklist หรือปัจจัยที่สำคัญในการนำสัตว์เลี้ยงมาใช้บริการเพ็ท พาร์คในต่างประเทศ ประกอบด้วย

CDC Pet Park มุ่งมั่นที่จะเป็น Pet Park อันดับหนึ่งของประเทศไทย ครองพื้นที่ในใจคนรักสัตว์เลี้ยง ในการมาปักหมุดที่ CDC Pet Park ในทุกครั้งที่อยากใช้เวลาผ่อนคลาย โดยเป็นการนำแนวคิดจากอเมริกาและยุโรปมาปรับใช้ให้ลงตัวเพื่อเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยงแสนรู้ ทั้งการจัดโซนต่างๆ อย่างชัดเจน พื้นที่ทั้งหมดนี้ถือเป็นพื้นที่ของความสุขที่สามารถให้สุนัขและเจ้าของพร้อมจะไปด้วยกัน โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันที่สุด พร้อมพื้นที่จอดรถจำนวนมาก งานนี้เหล่าคนรักสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย ต้องไม่พลาดที่จะพาเจ้าสี่ขาของคุณมาปลดปล่อยพลังและเอนจอยไปกับความสะดวกสบายต่างๆ ที่ CDC Pet Park ภายในศูนย์การค้า คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (ซีดีซี) เลียบทางด่วนเอกมัย – รามอินทรา งานนี้รับรองสัตว์เลี้ยงของคุณจะได้ฟินและเพลิดเพลินแบบสุดๆ

ติดตามข่าวสัตว์เลี้ยงแนะนำเพิ่มเติมได้ที่นี่ : 5 ข้อดีจากการที่พ่อแม่ให้ลูกใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยง

5 ข้อดีจากการที่พ่อแม่ให้ลูกใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยง

5 ข้อดีจากการที่พ่อแม่ให้ลูกใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยง

สัตว์เลี้ยง

ทราบหรือไม่ว่าการปล่อยให้ลูกได้เลี้ยงสัตว์ ให้ประโยชน์ต่อตัวลูกอย่างมากมาย อีกทั้งโดยธรรมชาติของเด็กจะรักและชื่นชอบสัตว์อยู่แล้ว แม้ว่าเด็กบางคนจะกลัวสัตว์บางชนิด แต่ก็กลับให้ความรักกับสัตว์อีกชนิดได้มากมาย วันนี้เราจะชวนให้พ่อแม่มารู้ถึงข้อดีจากการที่ให้ลูกได้ใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงกันค่ะ บอกเลยว่าแต่ละข้อมีความน่าสนใจอย่างมากเลยทีเดียว

1.Compassion เห็นอกเห็นใจ

การที่เด็กได้ใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยง จะส่งผลให้พวกเขามีความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งข้อดีข้อนี้ได้มีการอ้างอิงจากวรรณกรรมวิทยาศาสตร์ ที่เขียนโดย Nienke Endenburg และ Ben Baarda ซึ่งได้มีการกล่าวไว้ว่า ถ้ามีสัตว์เลี้ยงอาศัยอยู่ในบ้าน ทั้งผู้ใหญ่และเด็กจะต้องช่วยกันดูแลและรักษา พร้อมทั้งป้อนข้าว ป้อนน้ำ ให้อาหารสัตว์เหล่านั้น สิ่งนี้จะทำให้เด็กได้เรียนรู้ถึงการเห็นอกเห็นใจ และเรียนรู้ที่จะดูแลผู้อื่นตั้งแต่อายุยังน้อย

2.Self-Esteem ภูมิใจในตัวเอง

เมื่อใดที่เด็กได้ดูแลสัตว์เลี้ยง จะส่งผลให้พวกเขารู้สึกภูมิใจในตัวเองมากขึ้น เนื่องจากพวกเขาจะได้รับหน้าที่ต่างๆ สำหรับการดูแลสัตว์ ทำให้ได้รู้ว่าตัวเองควรทำอะไรบ้าง และทำอะไรสำเร็จไปแล้วบ้าง แม้จะเป็นเพียงแค่การให้อาหาร หรือพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น ก็ถือเป็นหน้าที่ที่พวกเขารู้ว่าตัวเองจะต้องรับผิดชอบ และตราบใดที่ทำได้ดี ก็ย่อมทำให้เกิดความรู้สึกภูมิใจในตัวเอง ที่สำคัญยังเพิ่มความมั่นใจในตัวเองอีกด้วย

3.Cognitive Development พัฒนาความคิด

โดยปกติแล้วเด็กที่เลี้ยงสัตว์มักจะใช้เวลาเล่นกับสัตว์เลี้ยงของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย การวิ่งเล่น หรืออ่านหนังสือให้ฟัง เป็นต้น ซึ่งพฤติกรรมต่างๆ เหล่านี้จะช่วยพัฒนาความคิดของเด็กได้ดี พร้อมทั้งยังพัฒนาด้านภาษาของเด็ก จึงถือเป็นการฝึกทักษะการสื่อสาร ทำให้เด็กเรียนรู้การโต้ตอบได้ดี

4.Stress Reduction ลดความเครียด

จากการสำรวจที่ได้มีการถามเด็กๆ ว่า เมื่อมีปัญหามักจะไปหาใครเป็นคนแรก โดยคำตอบส่วนใหญ่ของเด็กก็คือสัตว์เลี้ยงของตัวเอง นั่นจึงแสดงให้เห็นว่า สัตว์เลี้ยงสามารถเป็นที่พึ่งของเด็กได้ และยังเป็นตัวช่วยที่ทำให้เด็กคลายเครียด และลดการกดดันได้มากเลยทีเดียว

5.Understanding The Cycle of Life เข้าใจวงจรชีวิต

เมื่อพ่อแม่ให้ลูกได้เลี้ยงสัตว์ การพูดคุยและทำความเข้าใจเกี่ยวกับวงจรชีวิต ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องพยายามอธิบายให้พวกเขาได้เข้าใจ โดยเฉพาะในเรื่องของความตาย ถือเป็นเรื่องที่เด็กจะทำใจได้ยาก ดังนั้นเพื่อให้พวกเขาได้รู้ถึงวงจรชีวิตที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย จึงจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ไปพร้อมๆ กับการเลี้ยงสัตว์ไปด้วยนั่นเอง
ในส่วนของข้อดีของการเลี้ยงสัตว์ที่เราได้นำมาแบ่งปันให้พ่อแม่ได้ทราบนั้น ไม่เพียงแต่เป็นข้อดีสำหรับลูกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ใหญ่ทุกช่วงอายุด้วยเช่นกัน